EP.1 www.fargkai.com แนะนำเว็บไซต์ฝากขายสินค้าฟรี
https://www.youtube.com/watch?v=Td73U1hKIOE
EP.2 www.fargkai.com การสมัครเปิดร้านค้า(Vendor)
https://www.youtube.com/watch?v=hRQtGrdzT6Q&feature=youtu.be
EP.3 www.fargkai.com การสมัครเป็นผู้ขายสินค้า(Seller)
https://www.youtube.com/watch?v=UCOA9U5iGyQ&feature=youtu.be
EP.4 www.fargkai.com การสมัครและการใช้งาน Vendor Suggester
https://www.youtube.com/watch?v=Hxve72HGpFI&feature=youtu.be
EP.5 www.fargkai.com การสมัครและการใช้งาน Seller Suggester
https://www.youtube.com/watch?v=nDzZIfOzH44&feature=youtu.be
EP.6 www.fargkai.com การเพิ่มสินค้าของร้านค้า(Vendor)
https://www.youtube.com/watch?v=-NDuZT_svig&feature=youtu.be
EP.7 www.fargkai.com การสมัครบัญชีใช้งานอื่นด้วยวิธี Sign up
https://www.youtube.com/watch?v=gsVYMHllSNk&feature=youtu.be
EP.8 www.fargkai.com การดูออเดอร์ คอมเฟิร์มออเดอร์ และการส่งสินค้า
https://www.youtube.com/watch?v=pDdg4jDskK8&feature=youtu.be
EP.9 www.fargkai.com สินค้าส่งด่วนในพื้นที่
https://www.youtube.com/watch?v=M-xxdj3Zgds
EP.10 www.fargkai.com การใช้งานของผู้ขายสินค้า(Seller)
https://www.youtube.com/watch?v=wASYYmYtq_o
EP.11 www.fargkai.com การดูรายงานของ Seller
https://www.youtube.com/watch?v=y8IG3Bc2l1E&t=111s
EP.12 www.fargkai.com เมนูตั้งค่าของผู้ขายสินค้า(Seller)
https://www.youtube.com/watch?v=GBrnDv9ro6s
EP.14 www.fargkai.com การใช้งานเมนูตั้งค่าของร้านค้า(Vendor)
https://www.youtube.com/watch?v=Pb20jEOjGiA&feature=youtu.be
EP.15 www.fargkai.com การสร้างคูปองส่วนลด
https://www.youtube.com/watch?v=HkzN_Nb5YUo
EP.16 www.fargkai.com การดูรายงานของ ร้านค้า(Vendor)
https://www.youtube.com/watch?v=wMEHxGUVguY&feature=youtu.be
EP.17 www.fargkai.com การคืนสินค้า การแจ้งเรื่องร้องเรียน
https://www.youtube.com/watch?v=IJgAXh5mL-k&feature=youtu.be
EP.18 www.fargkai.com การใช้งานรายการร้องเรียนและชำระค่าปรับของร้านค้า(vendor)
https://www.youtube.com/watch?v=U0-P3GCQ318
EP.19 www.fargkai.com การใช้ line ช่วยขายสินค้า
https://www.youtube.com/watch?v=D8CpJ8SyQjI&feature=youtu.be
EP.20 www.fargkai.com การซื้อสินค้าและชำระค่าบริการ
https://www.youtube.com/watch?v=rDsmfXEZ8FY
ผู้ใช้งาน Fargkai.com สามารถรับการแจ้งเตือนการซื้อขายสินค้าทาง LINE ด้วยการเป็นเพื่อนกับเราใน LINE@ เพียงสแกน QR Code ใน Profile ผู้ใช้งาน
ทำตามขั้นตอนดังนี้
1. เลือก Profile ที่ผู้ใช้งานด้านบนขวาของหน้าจอ
2. แสกน QR Code เพิ่มเพื่อนเพื่อรับการแจ้งเตือน
การส่งสินค้าแบบเก็บเงินปลายทาง " เจ้าของสินค้า/ร้านค้า " จะต้องส่งสินค้ากับ Kerry Express และใช้รหัส COD ของบริษัทคือ COD A/C: C0917514340 ในการส่งสินค้าแบบเก็บเงินปลายทางเท่านั้น
ราคาที่ต้องแจ้งกับ Kerry Express ตอนฝากส่งสินค้าแบบเก็บเงินปลายทางคือราคารวมทั้งหมดในใบส่งสินค้า (ดูจากในระบบ)
ผู้ใช้งานระบบที่เป็น Vendor, Seller, Vendor Suggester และ Seller Suggester ต้องใช้บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์เพื่อรับเงินโอนจากการขายสินค้าหรือค่าคอมมิชชั่นต่างๆจากบริษัทเท่านั้น
ผู้ใช้งานจำเป็นต้องยืนยันตัวตนก่อนที่จะรับเงินค่าคอมมิชชั่นการขายจากเว็บไซต์ หรือยืนยันตัวตนหลังจากที่ลงทะเบียนใช้งานทันที เพราะว่าบริษัทจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ชัดว่าผู้ใช้งานมีตัวตนจริง และบัญชีธนาคารที่จะให้โอนเงินเข้าเป็นของผู้ใช้งานจริง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นภายหลังได้
ผู้ใช้งานที่ต้องยืนยันตัวตนคือ
1.ตัวแทนขาย (Seller)
2.ผู้แนะนำร้านค้า (Vendor Suggester)
3.ผู้แนะนำตัวแทนขาย (Seller Suggester)
วิธีการยืนยันตัวตนผู้ใช้งาน
1.คลิ๊กที่ My Profile
2.คลิ๊กที่ปุ่ม ยืนยันตัวตนผู้ใช้งาน เพื่อเข้าไปแก้ไขข้อมูลผู้ใช้งานให้ครบถ้วน
วิธีการใช้งาน
1. รอผู้ขายสินค้ายืนยันว่าสินค้าส่งได้ตามคำสั่งซื้อหรือไม่
เมื่อท่านสั่งซื้อสินค้าในเว็บไซต์ ต้องดูสถานะสินค้าว่าสามารถซื้อได้ทันทีหรือว่าต้องรอร้านค้ายืนยันก่อนว่ามีสินค้าสามารถจัดส่งได้หรือไม่ ถ้าสินค้าที่มีสถานะ "ตรวจสอบสถาานะสินค้าเมื่อสั่งซื้อ" ผู้ซื้อต้องรอให้ทางร้านค้ายืนยันก่อน ดังรูป
ถ้าสินค้านั้นมีสถานะเป็น "มีสินค้า" ผู้ซื้อสามารถซื้อสินค้าได้ทันที ดังรูป
2. ยืนยันการสั่งซื้อโดยคลิ๊ก "ยืนยันรายการ" หรือยกเลิกการสั่งซื้อโดยคลิ๊กที่ "ยกเลิกรายการ"
สินค้าที่ต้องตรวจสอบสต๊อกสินค้าเมื่อสั่งซื้อ เมื่อร้านค้ายืนยันว่าสามารถจัดส่งได้ตามคำสั่งซื้อแล้ว ผู้ซื้อสินค้าต้องกดยืนยันรายการ หรือ ยกเลิกรายการสั่งซื้อสินค้านั้นด้วย ทั้งนี้ทางร้านค้าอาจจะปรับลดจำนวนสินค้าลงมาหากว่าสินค้าในร้านมีไม่ครบตามรายการสั่งซื้อสินค้าของผู้ซื้อ สำหรับสินค้าที่ซื้อได้ทันทีไม่ต้องยืนยันการซื้อแต่สามารถปรับแก้จำนวนสินค้าได้
3. ชำระเงินค่าสินค้า
การชำระเงินค่าสินค้าสามารถทำได้ 4 แบบ คือ
4. ส่งรายละเอียดการชำระเงิน พร้อมแนบหลักฐานการชำระเงิน
หากผู้ซื้อสินค้าเลือกการชำระเงินแบบ โอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร/ATM/Mobile App หลังจากขั้นตอนที่ 2 แล้วท่านต้องคลิ๊กเลือกที่ปุ่ม ชำระเงินพร้อมส่งหลักฐานการชำระเงิน ดังรูป
ท่านสามารถโอนเงินเข้ามาที่บัญชีของบริษัทตามที่ระบบแสดงไว้ หลังจากนั้นต้องกรอกหลักฐานการชำระเงินและกด ยืนยันการส่งหลักฐานการชำระเงิน
5. หากเลยกำหนดเวลาการจัดส่งสินค้าตามที่ผู้ขายสินค้าแจ้งไว้ แล้วผู้ขายสินค้ายังไม่สามารถจัดส่งสินค้าชิ้นนั้นได้ ระบบจะตัดสินค้านั้นออกจากใบสั่งซื้อทันที
6. เมื่อท่านรับสินค้าแล้วให้กด " ยืนยันรับสินค้าแล้ว " เพื่อบริษัทจะได้นำจ่ายเงินค่าสินค้าให้กับร้านค้า
เพื่ออำนวยความสะดวกและป้องกันไม่ให้ผู้ซื้อสินค้าในเว็บไซต์ Fargkai.com ถูกเอาเปรียบหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้ขายสินค้า ทางเว็บไซต์ Fargkai.com ได้กำหนดให้ผู้ขายสินค้าในเว็บไซต์ต้องมีนโยบายคืนสินค้า (ยกเว้นสินค้าบางประเภทที่ไม่สามารถคืนหรือเปลี่ยนสินค้าได้) ในช่วงเวลานี้ทางเว็บไซต์จะเก็บเงินค้าสินค้าไว้ยังไม่โอนให้กับผู้ขายสินค้า “ หากเกิดปัญหาการซื้อขายแล้วผู้ขายสินค้าไม่ทำการแก้ปัญหาตามที่กำหนดไว้ เว็บไซต์ Fargkai.com จะคืนเงินค่าสินค้าให้กับผู้ซื้อสินค้า ระยะเวลาชำระเงินคืนขึ้นอยู่กับวิธีการชำระเงินและธนาคารที่ผู้ซื้อทำการชำระเงินเข้ามา (ภายใน 14 วันหากผู้ซื้อชำระผ่านบัตรเครดิต หรือ Internet Banking) ”
ในกรณีที่ผู้ซื้อสินค้าส่งสินค้าคืนให้กับผู้ขายสินค้า ผู้ขายสินค้าต้องจ่ายค่าส่งสินค้าให้กับผู้ซื้อสินค้าภายใน 3 วันหลังจากที่ได้รับสินค้าคืนแล้ว ไม่เช่นนั้นระบบจะหยุดแสดงสินค้าของร้านท่านชั่วคราวจนกว่าจะแก้ไขปัญหาเสร็จสิ้น
คือสินค้าที่สามารถจัดส่งในพื้นที่ได้ทันทีในเวลาไม่นาน สินค้าส่งด่วน (Fast Delivery) ตั้งขึ้นมาเพื่อส่งเสริมธุรกิจในท้องถิ่น เช่น ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ร้านค้าปลีก ร้านค้าส่ง ร้านดอกไม้ ร้านขายของฝากของที่ระลึก ร้านขายขนม ร้านขายผักผลไม้ เป็นต้น ให้บริการกับผู้ซื้อที่อยู่บริเวณใกล้เคียงกับที่ตั้งของร้านค้า ซึ่งร้านค้าจะสามารถส่งสินค้าได้ในทันทีที่ยืนยัน order ว่าสามารถส่งสินค้าได้
ข้อกำหนดของการซื้อสินค้าส่งด่วน (Fast Delivery)
1.ผู้ซื้อต้องจ่ายเงินค่าสินค้าก่อน ไม่สามารถซื้อสินค้าแบบเก็บเงินปลายทางได้
2.เมื่อขนส่งมาส่งสินค้าแล้วผู้ซื้อไม่ตรวจสอบสินค้าให้เรียบร้อยหรือพบว่าสินค้ามีปัญหา (ในเวลารับประกันเปลี่ยนสินค้าที่ร้านค้ากำหนด) เช่น สินค้าชำรุด ไม่สามารถใช้งานได้ ส่งสินค้าผิด ฯลฯ ในการแก้ไขปัญหาครั้งแรกนั้นกำหนดให้ผู้ซื้อสามารถเปลี่ยนสินค้าใหม่ได้ แต่ไม่สามารถคืนสินค้าในการแก้ปัญหาครั้งแรก หากสินค้าที่ได้รับมาใหม่จากการเปลี่ยนสินค้านี้มีปัญหาการใช้งานอีก ผู้ซื้อสามารถคืนสินค้าแล้วรับเงินคืนได้ในการแก้ปัญหาครั้งต่อไป
3.เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งสินค้าแบบส่งด่วน ผู้ซื้อสินค้าสามารถกำหนดตำแหน่งที่ส่งสินค้าลงในแผนที่ Google เพียงคลิ๊กขวาลงบนตำแหน่งที่ต้องการให้ส่งสินค้า ผู้ขายสินค้าจะเห็นจุดส่งสินค้าบนแผนที่ด้วย ทำให้ง่ายในการตรวจสอบว่าสามารถส่งสินค้าด่วนในบริเวณนั้นได้หรือไม่
ค่าปรับใน Fargkai.com จะมี 4 อย่าง ดังนี้
1.ค่าปรับเกิดจากการที่ผู้ขายสินค้า (Vendor) ไม่ส่งสินค้าตามที่ได้กำหนดไว้ ผู้ขายสินค้า (Vendor) ต้องจ่าค่าปรับให้กับบริษัทในอัตรา 10% ของมูลค่าสินค่านั้น
2.ค่าปรับเกิดจากการที่ผู้ซื้อสินค้าคืนสิค้าให้กับผู้ขายสินค้า(vendor) อันเนื่องมาจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ส่งสินค้าไม่ตรงตามที่ผู้ซื้อสินค้าสั่งซื้อ สินค้าชำรุด แตกหัก เน่าเสีย ใช้งานไม่ได้ตามที่ระบุไว้ ฯลฯ ผู้ขายสินค้า (Vendor)ต้องจ่าค่าปรับให้กับบริษัทในอัตรา 10% ของมูลค่าสินค่านั้น
3.ค่าปรับเกิดจากการเปลี่ยนหรือคืนสินค้าของผู้ซื้อสินค้า ผู้ขายสินค้า (vendor) ต้องเป็นผู้จ่ายค่าส่งสินค้าคืนให้กับผู้ซื้อสินค้าทันทีที่ได้รับสินค้าคืน
4.ค่าปรับเกิดจากการเปลี่ยนสินค้าครั้งที่ 2 ของผู้ซื้อสินค้า อันเนื่องมาจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ส่งสินค้าไม่ตรงตามที่ผู้ซื้อสินค้าสั่งซื้อ สินค้าชำรุด แตกหัก เน่าเสีย ใช้งานไม่ได้ตามที่ระบุไว้ ฯลฯ ผู้ขายสินค้า (Vendor) ต้องจ่าค่าปรับให้กับบริษัทในอัตรา 100 บาทต่อการเปลี่ยนสินค้า คิดค่าปรับตั้งแต่ครั้งที่ 2 เป็นต้นไป
เมื่อผู้ซื้อสินค้าชำระค่าสินค้าโดยวิธีการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตออนไลน์ และ Internet Banking ผู้ขายสินค้า(Vendor)ต้องเสียค่าบริการช่องทางการชำระเงิน 4% จากราคาสินค้าที่ท่านส่งให้กับเว็บไซต์(คิดที่ราคาสินค้ารวม Vat 7%) เงินค่าบริการชำระเงินส่วนที่เหลือทางเว็บไซต์จะเป็นผู้ชำระเอง
ตัวอย่างที่ 1
Vendor ที่เป็นบุคคลธรรมดาขายสินค้าราคาส่งให้เว็บไซต์ราคา 1,000 บาท seller ขายปลีก 1,300 บาท ผู้ซื้อสินค้าชำระเงินผ่านบัตรเครดิตออนไลน์ ค่าบริการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตจะเป็นดังนี้
ค่าบริการจ่ายบัตรเครดิต |
1,300 * 4% | = | 52 | บาท |
ค่าบริการชำระเงินของ vendor |
1,000 * 4% | = | 40 | บาท |
ค่าบริการชำระเงินที่เว็บไซต์รับภาระ |
52 – 40 | = | 12 | บาท |
หากสินค้าที่ท่านส่งให้กับผู้ซื้อสินค้ามีปัญหา ผู้ซื้อสินค้าต้องการคืนสินค้าแล้วขอรับเงินคืน ในกรณีนี้จะมีขั้นตอนการดำเนินการตามกรณีต่าง ๆ ดังนี้
1.ผู้ซื้อสินค้าคืนสินค้าบางส่วน ผู้ขายสินค้า (Vendor) ต้องรับผิดชอบค่าบริการชำระเงินระบบชำระเงินผ่านบัตรเครดิตออนไลน์ทั้งหมด โดยทางเว็บไซต์จะเพิ่มค่าใช้จ่ายส่วนนี้ไปในค่าบริการใช้งานระบบ
2.ผู้ซื้อสินค้าคืนสินค้าทั้งหมด เว็บไซต์จะออกใบแจ้งหนี้เรียกเก็บค่าบริการชำระเงินระบบชำระเงินผ่านบัตรเครดิตออนไลน์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับการซื้อขายครั้งนี้
การคิดค่าบริการการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตออนไลน์ในกรณีที่มีการจัดรายการส่งเสริมการขาย
1.ผู้ขายสินค้า (Vendor) จัดรายการส่งเสริมการขายสินค้าโดยการลดราคาสินค้าหรือให้ส่วนลดหลังการขายสินค้า จะคิดค่าบริการชำระเงินระบบชำระเงินผ่านบัตรเครดิตออนไลน์ที่ราคาสุทธิหลังส่วนลดแล้วในอัตรา 4%
2.ทางเว็บไซต์เป็นผู้จัดรายการส่งเสริมการขายให้กับทางร้านค้า (Vendor) กรณีนี้ ทางร้านค้า (Vendor) ต้องจ่ายเงินค่าบริการชำระเงินระบบชำระเงินผ่านบัตรเครดิตออนไลน์ที่ราคาสินค้าส่งให้กับทางเว็บไซต์(ราคารวมภาษีแล้ว)ในอัตรา 4%
ผู้ให้บริการจะโอนเงินค่าสินค้าให้กับ “เจ้าของสินค้า/ร้านค้า” เมื่อบริษัทได้รับเงินจากการชำระค่าสินค้าเรียบร้อยแล้วและจ่ายตามเวลาที่บริษัทกำหนดไว้แล้วเท่านั้น คือ รวมยอดขายสินค้าจากการซื้อขายที่สำเร็จเรียบร้อยแล้วโอนเงินค่าสินค้าให้กับ “เจ้าของสินค้า/ร้านค้า” ในวันอังคารและวันศุกร์ ดังตัวอย่าง
ตัวอย่างที่ 1 ยอดขายสินค้าที่ซื้อขายเรียบร้อยตั้งแต่วันจันทร์ที่ 1 ตุลาคม 2561 ผู้ให้บริการจะรวมยอดเงินค่าสินค้าจ่ายให้ “เจ้าของสินค้า/ร้านค้า” ในวันอังคารที่ 2 ตุลาคม 2561
ตัวอย่างที่ 2 ยอดขายสินค้าที่ซื้อขายเรียบร้อยตั้งแต่วันอังคารที่ 3 ตุลาคม 2561 ผู้ให้บริการจะรวมยอดเงินค่าสินค้าจ่ายให้ “เจ้าของสินค้า/ร้านค้า” ในวันศุกร์ที่ 5 ตุลาคม 2561
ร้านค้าได้รับการชำระเงินจากผู้ซื้อสินค้าเป็นแบบจ่ายผ่านบัตรเครดิตและ Internet Banking ต้องรอธนาคารที่ผู้ซื้อใช้บริการ โอนเงินให้มาให้กับผู้ให้บริการในระยะเวลาประมาณ 8 วัน เช่นร้านค้าได้รับการชำระเงินจากผู้ถือบัตรมาในวันที่ 10 สิงหาคม เงินจำนวนนั้นจะสามารถถอนออกไปยังบัญชีธนาคารได้ในวันที่ 18 สิงหาคม เป็นต้นไปหากวันที่โอนเงินตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ ธนาคารจะโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ให้บริการในวันถัดไปที่ธนาคารเปิดทำการ หลังจากนั้นผู้ให้บริการจึงจะโอนเงินค่าสินค้าให้กับ “เจ้าของสินค้า/ร้านค้า” ในรอบการโอนของผู้ให้บริการ
(หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการจ่ายเงินค่าสินค้าคืนให้กับ “เจ้าของสินค้า/ร้านค้า” ผู้ให้บริการจะแจ้งให้ท่านทราบทันที)